ด้วยเทคโนโลยี Double Hybrid Membrane Technology (DHMb Technology) ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ MIG-ESP จะสร้างชั้นฟิล์ม 2 ชั้น ชั้นในสุดมีลักษณะเป็นรูพรุนกระจายทั่วพื้นผิว ทำหน้าทีสะท้อนความชื้น และชั้นนอกมีลักษณะเป็นผลึก ทำหน้าทีสะท้อนรังสีความร้อน (Infrared) และ รังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV) เมื่อความชื้นเดินทางเข้าไปถึงชั้นฟิล์มด้านในสุด จะถูกสะท้อนกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันความชื้นที่สะสมอยู่ภายในพื้นผิวอาคาร จะถูกขับออกจากแรงดันที่เกิดขึ้นภายในพื้นผิวของอาคาร ที่สามารถผ่านชั้นฟิล์มที่ระบายอากาศได้ดี และความชื้นที่ถูกขับออกจะโดนกำจัดด้วยการได้รับรังสีความร้อน (Infrared) และ รังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV) ที่ถูกสะท้อน จากผลึกที่เรียงตัวอยู่บนชั้นฟิล์มด้านนอก ทำให้พื้นผิวแห้ง สะอาด และเกิดเป็นกลไกการสร้างฉนวนแบบธรรมชาติที่ให้ผลลัพธ์อันเป็นประโยชน์ เช่น

• ป้องกันการเกิดเชื้อราบนพื้นผิว ได้เป็นอย่างดี
• ช่วยประหยัดพลังงาน ด้วยการสะท้อนรังสีความร้อน (Infrared)
• ยับยั้ง และป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Escherichia coli และ Staphylococcus aureus (MRSA) ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน ISO 22196-07
• ลดกลิ่นอับ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในอาคาร เนื่องจากความชื้นเป็นตัวการที่ดูดซับกลิ่น จะถูกกำจัดด้วยกลไกการทำงานของ Double Hybrid Membrane Technology
• ลดการฟุ้งกระจายของละอองฝุ่นที่อยู่ในอากาศ MIG-ESP จะช่วยลดความต่างของอุณหภูมิระหว่างพื้น กับฝ้าเพดาน จากปกติ 5 องศาเซลเซียส เหลือเพียง 1 องศาเซลเซียส ทำให้ไม่เกิดสภาวะลมหมุนภายในอาคาร โดยละอองฝุ่นที่ลอยอยู่ จะโดนแรงโน้มถ่วงดึงดูด ตกลงสู่พื้น ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ และโรคทางเดินหายใจ
• เพิ่มคุณภาพ และความคงทนให้พื้นผิวอาคาร ด้วยการสะท้อนรังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV) ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน DIN EN ISO 11507
• ปราศจากกลิ่น และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย VOCs ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผ่าการทดสอบตามาตรฐาน French VOC Regulation
• ผ่านการทดสอบการลามไฟตามมาตรฐาน DIN 4102, part 1 ที่ระดับ A2 สำหรับวัสดุก่อสร้างที่ไม่ติดไฟ
• ได้รับการรับรอง และมีผลทดสอบจาก ห้องทดลองที่มีความน่าเชื่อถือจากประเทศเยอรมนี

References

VISPAC Office

สมุทรปราการ | 2563

vispac อ่านต่อ